ที่ดินสามมุมเมือง

ที่ดินสามมุมเมือง

บุกหนักปี’64! “โนเบิล” ขึ้น 11 โครงการ 4.5 หมื่นล้าน จับมือ BTS เปิดกรุ ที่ดินสามมุมเมือง

ที่ดินสามมุมเมือง หลัง “โนเบิล” ปรับแผน จัดสมดุลพอร์ตในปีนี้ กางแผนปี 2564 จะบุกหนักตาม ทิศทางใหม่ ปูพรม 11 โครงการ มูลค่ารวม 4.51 หมื่นล้านบาท ร่วมทุน “ยูซิตี้” ในเครือบีทีเอส เปิดกรุที่ดินแปลง เด็ดทั้งกลางเมือง และ ชานเมืองขึ้นโครงการ ที่ดินสามมุมเมือง

ปีหน้าหวังยอดขายพุ่งเป็น 1.6 หมื่นล้าน รายได้ 1.1 หมื่นล้าน ขอขึ้น Top 5 วงการอสังหาฯ ภายในปี 2566 “ธงชัย บุศราพันธ์” ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) นำทีมผู้บริหารเปิดคาดการณ์ผลประกอบการปี 2563 ที่ดินสามมุมเมือง

และแผนดำเนินการปี 2564 แบบไม่มีกั๊ก ว่ากันที่สถานการณ์ปี 2563 ของโนเบิล คาดว่าจะปิดยอดพรีเซลได้ที่ 6.5 พันล้านบาท และรายได้ที่กว่า 1 หมื่นล้านบาท (รายได้รอบ 9 เดือนแรกปี 2563 ทำได้ที่ 7.5 พันล้านบาท) และ น่าจะทำอัตรากำไรสุทธิได้ที่ประมาณ 15% ธงชัยกล่าวว่า จากการปรับตัวของบริษัท ทำให้โนเบิลสามารถลดหนี้จน D/E ลงมาเหลือ 1.2 เท่า ส่งให้บริษัทมีความพร้อมที่จะรับความเสี่ยงมากขึ้นในการเปิดตัวปีหน้า

ที่ดินสามมุมเมือง

แผนงานปี 2564 โนเบิลเตรียม เปิดตัวใหม่ 11 โครงการ มูลค่ารวม 4.51 หมื่นล้านบาท ถือเป็นการบุกหนักมากที่สุดในรอบหลายปี และจะทำให้สัดส่วนโครงการในพอร์ตของโนเบิลเปลี่ยนไปตามแผนดังนี้ 1)โครงการแบรนด์ “นิว (nue)” ซึ่งจับตลาดกลางถึงกลางล่างราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท เพิ่มเป็น 50% ของพอร์ต จากเดิม 22% 2)โครงการแนวราบ เพิ่มเป็น 34% ของพอร์ต จากเดิมมีอยู่ 10% (วิธีรวม สวนในการ ออกแบบบ้าน คลิกที่นี่)

ด้านเป้าหมายยอดพรีเซลปี 2564 ตั้งเป้าที่ 1.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 146% เนื่องจากการระดมเปิดโครงการใหม่ และตั้งเป้ารายได้ 1.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 10% การเติบโตต่างจากยอดพรีเซลมาก เพราะส่วนใหญ่เป็นโครงการแนวสูงที่ต้องรอรับรู้รายได้ในอีก 3 ปี และในปี 2566 ตั้งเป้ารับรู้รายได้ระหว่าง 1.5-2.0 หมื่นล้านบาท ขึ้นเป็น Top 5 ตลาดอสังหาริมทรัพย์

เปิดโผ 11 โครงการทำเลเด็ดปี 2564

เปิดโผ 11 โครงการทำเลเด็ดปี 2564

ที่ดินสามมุมเมือง

มีหลายโครงการ ที่อยู่ในทำเลน่าสนใจ ในราคาที่น่าจะทำให้ตลาด ฮือฮาไม่น้อย ไล่จากกลางเมืองจะมีแปลงโครงการ “ดิ เอ็มบาสซี แอท ไวร์เลส” บนถนนวิทยุ เป็นที่ดิน 3 ไร่ครึ่ง ตรงข้ามปาร์คนายเลิศ ที่จะเปิดขายในราคาเริ่มต้นไม่เกิน 10 ล้านบาท โครงการบ้าน

ในย่านขอบเมือง มีโครงการ “นิว อีโว อารีย์” คอนโดฯ ตึกสูงย่านอารีย์ที่ จะเปิดขายในราคา 1.4-1.5 แสนบาทต่อตร.ม. หรือย่านนิวซีบีดี เตรียมโครงการ “ย่านพระราม 9” ไว้โดยยังไม่ระบุแบรนด์ (แต่คาดว่าจะเป็นแบรนด์โนเบิล) คอนโดฯ

ใหม่ที่จะบุกจุดเรดโอเชียนเป็นแปลงที่ดินติดกับตึกสำนักงานยูนิลีเวอร์ ริมถนนพระราม 9

ถัดมาเป็นมิกซ์ โปรเจกต์ โครงการแนวราบบน “ถนนเลียบด่วนรามอินทรา” จะมีทั้งทาวน์เฮาส์ ซึ่งโนเบิลไม่ได้พัฒนาใหม่มานาน ก็จะกลับมาให้เห็นในปีหน้า รวมถึงจัดผังที่ดินเปล่าจัดสรร

ซึ่งทางโนเบิลมองว่า ย่านนี้เป็นย่านบ้านเดี่ยวไฮเอนด์ ลูกค้ามักจะต้องการออกแบบบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง มากกว่าจะอยากได้บ้านที่เหมือนๆ กันทั้งโครงการ จึงต้องการที่ดินเปล่ามากกว่าบ้านเดี่ยวสำเร็จรูป

ถนนเลียบด่วนรามอินทรา

ขยับออกไปย่าน ชานเมืองมากขึ้น จะมีมิกซ์โปรเจกต์อีกจุดหนึ่ง คือโครงการ “นิว ทาวน์เฮาส์ และ นิว คอนโด ดอนเมือง” เป็นโครงการผสมผสานทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น กับคอนโดฯ สูง 8-14 ชั้น ที่ดินเข้าออกได้ทั้งถนนวิภาวดีและถนนพหลโยธิน แต่งห้องนอน ห่างจากสนามบินดอนเมืองประมาณ 2 กม. และจากสถานี แยก คปอ. ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เคหะฯ-คูคต) ประมาณ 4 กม. โดยทาวน์เฮาส์จะเปิดราคาที่ 4 ล้านต้นๆ

สุดท้ายที่น่าสนใจคือโครงการระดับแมสขนาดใหญ่ “ย่านคูคต” ยังไม่ระบุแบรนด์แต่คาดว่าน่าจะเป็นแบรนด์นิว โครงการนี้เป็นที่ดินใหญ่ 51 ไร่ ติดถนนลำลูกกาและติดสถานีรถไฟฟ้าคูคต โดยเป็นแปลงหน้ากว้างราว 800 เมตร ไม่ใช่ที่ดินแปลงยาวลึกลักษณะเส้นก๋วยเตี๋ยว

ซึ่งจะทำให้การแบ่งเฟสโครงการสะดวกกับผู้อยู่อาศัยทั้งหมด ทั้งโครงการจะเป็นคอนโดฯ ตึกเตี้ย แบ่งพัฒนาเป็น 5 เฟส รวมแล้วมี 6,000 ยูนิต เฟสแรกเตรียมเปิดขายไตรมาส 4/64 ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.1 ล้านบาทต่อยูนิต

ดีล “ร่วมทุน” เปิดกรุสมบัติที่ดิน BTS

ในแผนพัฒนาโครงการของโนเบิลนั้นบริษัทไม่ได้มาคนเดียว มีหลายโครงการที่เป็นการ “ร่วมทุน” กับพาร์ตเนอร์ยาวตั้งแต่ปี 2564-2566 ได้แก่ ดิ เอ็มบาสซี แอท วิทยุ ที่ร่วมทุนกับกลุ่ม “ฮ่องกงแลนด์”

และอีก 4 โครงการที่ร่วมทุนกับ บมจ.ยูซิตี้ บริษัทในกลุ่ม บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ได้แก่ โครงการย่านพระราม 9, สุขสวัสดิ์, คูคต และราษฎร์บูรณะ (*เปิดตัวปี 2565)

นอกจากนี ยังมีอีกหนึ่งดีลความร่วมมือ ระหว่าง โนเบิล, BTS และบมจ.สหพัฒนา อินเตอร์โฮลดิ้ง ร่วมกันซื้อที่ดินริมถนนบางนา-ตราด กม.14 บริเวณโครงการธนาซิตี้ไว้ สัดส่วนถือหุ้น สหพัฒน์ 41% โนเบิล 40% และ BTS 19% โดยธงชัยกล่าวว่า

เป็นการซื้อที่ดินเตรียมสำหรับอนาคต ปัจจุบันผังเมืองยังอนุญาตให้ขึ้นโครงการเฉพาะแนวราบ แต่ถ้าหากมีรถไฟฟ้าสายบางนา-สุวรรณภูมิเกิดขึ้น เชื่อว่าผังเมืองจะเปลี่ยนแปลง และทำให้ที่ดินขึ้นโครงการแนวสูงได้

เชื่อปีหน้าอสังหาฯ กลับมาฟื้นตัว

โนเบิลเปิดตัวโครงการ แบบปูพรมทุกเซ็กเมนต์ สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจต่อสถานการณ์ปี 2564 โดยธงชัยมองว่า  ปีหน้าจะมีปัจจัยบวกคือวัคซีนที่วิจัยสำเร็จ แม้ว่าขณะนี้จะมีสถานการณ์ COVID-19 ระบาดรอบใหม่ ก็เชื่อว่าจะสามารถควบคุมได้เร็วกว่ารอบก่อน อาจจะส่งผลระยะสั้นๆ

ไม่เกินไตรมาส 1/64 และเชื่อว่าประเทศไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในปี 2563เจาะลึกแต่ละเซ็กเมนต์ ธงชัยกล่าวว่ากลุ่มโครงการ “นิว” ที่เป็นตลาดกลางถึงกลางล่าง ปีนี้เปิดใหม่ 3 โครงการมียอดขายเกิน 50% แล้วทุกแห่งซึ่งถือว่าน่าพอใจ วิลล่าภูเก็ต

จึงมั่นใจที่จะเปิดโครงการต่อในปีหน้าส่วน ตลาดบนหรือไฮเอนด์ มองว่าปีนี้ตลาดมีการดูดซับสต๊อกเก่าไปมากแล้ว ทำให้ตลาดพร้อมที่จะรับโครงการใหม่ๆ แต่จะเห็นว่าบริษัทเปิดขายในราคาที่มั่นใจได้ว่า “ขายดี” แน่นอน ยกตัวอย่าง โนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ จะเปิดราคาราวๆ ตร.ม.ละ 2 แสนต้นๆ เทียบกับในตลาดซึ่งขายราคาตร.ม.ละ 2 แสนปลาย

ด้านตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะชาวจีน โนเบิลประเมินว่ามีดีมานด์อย่างต่อเนื่อง และถ้าหากปี 2564 ประเทศไทยเปิดประเทศ จะมีชาวจีนเข้ามาเลือกซื้อจำนวนมาก เพราะไทยยังเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ที่คนจีนต้องการซื้ออสังหาฯ 

(อันดับ 2 คือ ญี่ปุ่น และอันดับ 3 คือ อังกฤษ) โดยธงชัยทิ้งท้ายขอให้รัฐบาลพิจารณากระตุ้นกำลังซื้อส่วนนี้ ซึ่งจะช่วยฟื้นตลาดอสังหาฯ ไทยได้เร็วและเป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจ